Venice Biennale 2019: การเฉลิมฉลองศิลปะร่วมสมัยจากทั่วโลกและการกลับมาสู่เวทีของ postmodernism

blog 2025-01-03 0Browse 0
Venice Biennale 2019: การเฉลิมฉลองศิลปะร่วมสมัยจากทั่วโลกและการกลับมาสู่เวทีของ postmodernism

biennale of Venice เป็นงานแสดงศิลปะที่เก่าแก่ที่สุดในโลกจัดขึ้นครั้งแรกในปี พ.ศ. 2437 และได้กลายเป็นงานแสดงศิลปะที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก การประชุมนี้จะจัดขึ้นทุกๆ สองปี ในเมืองเวนิส ประเทศอิตาลี ศิลปินและนักวิจารณ์จากทั่วโลกมารวมตัวกันที่นี่เพื่อเฉลิมฉลองความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรม

Biennale ครั้งที่ 58 ซึ่งจัดขึ้นในปี พ.ศ. 2562 มีหัวข้อ “May You Live in Interesting Times” และเน้นการสำรวจความซับซ้อนของโลกสมัยใหม่ ในฐานะนักประวัติศาสตร์ศิลปะ เราต้องยอมรับว่างาน biennale ครั้งนี้มีความหมายอย่างยิ่งเนื่องจากเป็นการกลับมาสู่เวทีของ postmodernism

Postmodernism เป็นกระแสทางความคิดที่เกิดขึ้นในช่วงปลายคริสต์ศตวรรษที่ 20 และตั้งคำถามต่อแนวคิดดั้งเดิมเกี่ยวกับความจริง ความรู้ และศิลปะ การย้อนกลับมาของ postmodernism ในงาน biennale แสดงให้เห็นว่ากระแสความคิดนี้ยังคงมีอิทธิพลอย่างมากต่อโลกศิลปะ

ในปี 2562 ผู้กำกับ biennale คือ Ralph Rugoff ซึ่งเป็นนักวิจารณ์และผู้เชี่ยวชาญด้านศิลปะชาวอเมริกัน เขาได้รวบรวมผลงานจากศิลปินกว่า 90 คนจากทั่วโลก รวมถึงประเทศไทยด้วย

หนึ่งในศิลปินที่น่าสนใจที่สุดใน biennale ครั้งนี้คือ Paola Pivi ศิลปินหญิงชาวอิตาลี ซึ่งเป็นที่รู้จักในผลงานที่มีความแปลกใหม่และเหนือจินตนาการของเธอ

Paola Pivi เกิดในเมือง Milan ประเทศอิตาลี ในปี พ.ศ. 2517 เธอสำเร็จการศึกษาจาก Accademia di Belle Arti di Firenze และได้เข้าร่วม biennale ครั้งนี้ด้วยผลงาน “UNTITLELED (GREEN)”,

UNTITLELED (GREEN) เป็นผลงานที่น่าประทับใจซึ่งประกอบด้วยฝูงของนกกระสาขนาดยักษ์สีเขียวสดซึ่งลอยอยู่เหนือพื้นที่จัดแสดง ผลงานชิ้นนี้ได้สร้างความฮือฮาและเป็นที่พูดถึงอย่างมากใน biennale

คุณสมบัติของ UNTITLELED (GREEN) คำอธิบาย
ขนาด นกกระสาขนาดยักษ์สูง 4 เมตร
วัสดุ โพลิเมอร์สีเขียวสด
จำนวนนก 12 ตัว
แหล่งที่ตั้ง Giardini della Biennale, Venice

Paola Pivi ตั้งใจที่จะใช้ผลงานชิ้นนี้เพื่อสำรวจความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์และธรรมชาติ นอกจากนั้น ผลงานชิ้นนี้ยังเป็นการสะท้อนถึงความขัดแย้งในโลกสมัยใหม่ ซึ่งเราพยายามควบคุมธรรมชาติ แต่ก็พร้อมที่จะถูกครอบงำโดยมัน

Biennale ครั้งที่ 58 ยังมีผลงานศิลปะที่น่าสนใจอีกมากมาย เช่น “The Waste Land” ของ Sarah Sze และ “For Whom the Bell Tolls” ของ Tino Sehgal

Biennale ครั้งนี้เป็นครั้งที่มีความหมายอย่างยิ่ง เนื่องจากเป็นการแสดงให้เห็นถึงความหลากหลายของศิลปะร่วมสมัย และเป็นโอกาสที่ยอดเยี่ยมสำหรับศิลปินและผู้ชมทั่วโลกที่จะมาพบปะและแลกเปลี่ยนความคิด

นอกจากนั้น biennale ยังเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนว่าศิลปะสามารถใช้เป็นเครื่องมือในการวิพากษ์สังคม การสำรวจความคิดใหม่ๆ และสร้างความเข้าใจระหว่างกัน

TAGS