เมื่อพูดถึงประวัติศาสตร์รัสเซีย ย่อมไม่มีใครที่จะไม่รู้จักเหตุการณ์สำคัญอย่าง “การปฏิวัติเดือนกุมภาพันธ์” ปี 1917 การปฏิวัติครั้งนี้ได้เปลี่ยนแปลงโฉมหน้าของประเทศรัสเซียไปตลอดกาล และเป็นจุดเริ่มต้นของยุคโซเวียตที่กินเวลานานกว่าเจ็ดทศวรรษ
การปฏิวัติเดือนกุมภาพันธ์ เกิดขึ้นในช่วงสงครามโลกครั้งที่หนึ่งซึ่งรัสเซียอยู่ในสภาวะวิกฤตทั้งทางด้านเศรษฐกิจและสังคม ชาวนาขาดแคลนอาหาร ทหารประสบความสูญเสียจำนวนมาก และประชาชนทั่วไปเริ่มเกิดความไม่พอใจต่อการปกครองของซาร์นิโคลาสที่สอง
ในบรรดาผู้ที่มียศยศศักดิ์ในสมัยนั้น “Vladimir Lenin” นายกรัฐมนตรีคนแรกของสหภาพโซเวียต เป็นบุคคลสำคัญที่ผลักดันให้เกิดการปฏิวัติเดือนกุมภาพันธ์ เขาเป็นผู้นำพรรคบอลเชวิกระหว่างสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง และเห็นว่านี่คือโอกาสที่เหมาะสมในการโค่นล้มระบอบราชวงศ์
Lenin มีความเชื่อมั่นอย่างเหนียวแน่นในหลักคำสอนของคาร์ล มาร์กซ์และการปฏิวัติของชน proletariat ซึ่งเขาเห็นว่าเป็นทางเดียวที่จะสร้างสังคมที่เท่าเทียมกันขึ้นมาได้
Lenin และพรรคบอลเชวิคได้อาศัยความไม่พอใจของประชาชนต่อระบอบราชาธิปไตยเป็นจุดแข็งในการโจมตี
พวกเขาเริ่มต้นด้วยการเรียกร้องให้มีการปฏิรูปการปกครอง แต่เมื่อเห็นว่าซาร์นิโคลาสที่สองไม่ยอมรับข้อเรียกร้อง พวกเขาก็ตัดสินใจลุกขึ้นต่อต้านอย่างเปิดเผย
การประท้วงและการจลาจลได้ระเบิดขึ้นทั่วกรุงเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก เมืองหลวงของรัสเซียในขณะนั้น ทหารที่ถูกส่งมาปราบปรามผู้ประท้วงก็ได้เข้าร่วมกับฝ่ายปฏิวัติแทน
เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ (8 มีนาคม) พ.ศ. 2460 ซาร์นิโคลาสที่สอง และครอบครัวถูกจับกุมโดยกลุ่มบอลเชวิค การล่มสลายของระบอบราชวงศ์รัสเซียก็ได้เกิดขึ้นอย่างเป็นทางการ
ผลกระทบของการปฏิวัติเดือนกุมภาพันธ์ต่อรัสเซีย
การปฏิวัติเดือนกุมภาพันธ์ มีผลกระทบที่มหาศาลต่อรัสเซียทั้งในแง่ทางการเมือง สังคม และเศรษฐกิจ
-
การสิ้นสุดของระบอบราชวงศ์: การปฏิวัติได้นำไปสู่การล่มสลายของระบอบจักรวรรดิรัสเซีย ซึ่งครองอำนาจมาหลายศตวรรษ
-
การสถาปนารัฐบาลชั่วคราว: รัฐบาลชั่วคราวได้ถูกจัดตั้งขึ้นเพื่อบริหารประเทศในช่วงเปลี่ยนผ่าน
-
การเกิดของพรรคบอลเชวิค: พรรคบอลเชวิคภายใต้การนำของ Lenin ได้เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วและกลายเป็นพรรคการเมืองที่ทรงอำนาจที่สุดในรัสเซีย
การปฏิวัติเดือนตุลาคม: การเปลี่ยนผ่านสู่ยุคโซเวียต
หลังจากการปฏิวัติเดือนกุมภาพันธ์ พรรคบอลเชวิคได้ดำเนินนโยบายต่างๆ เพื่อแก้ไขปัญหาที่ประเทศรัสเซียเผชิญอยู่ แต่ก็ยังมีกลุ่มต่อต้านระบอบการปกครองของพรรคบอลเชวิคอยู่
ในวันที่ 7 พฤศจิกายน (25 ตุลาคม) พ.ศ. 2460 Lenin และพรรคบอลเชวิคได้ยึดอำนาจจากรัฐบาลชั่วคราว การปฏิวัติเดือนตุลาคมนี้ได้นำไปสู่การสถาปนารัฐโซเวียต
รัสเซียในยุคโซเวียต: หลังจากการปฏิวัติเดือนตุลาคม รัสเซียก็ถูกปกครองโดยพรรคบอลเชวิค (ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็นพรรคคอมมิวนิสต์แห่งสหภาพโซเวียต)
-
เศรษฐกิจแบบวางแผน: รัฐบาลโซเวียตได้ริเริ่มการปฏิรูปเศรษฐกิจอย่างใหญ่หลวง โดยใช้ระบบเศรษฐกิจแบบวางแผน
-
การบีบบังคับการเกษตร collectivization: เพื่อเสริมสร้างอำนาจของรัฐบาล พรรคบอลเชวิคได้บังคับให้ชาวนาสละที่ดินส่วนตัวและรวมตัวกันเป็นฟาร์มขนาดใหญ่
-
การก่อตั้งสหภาพโซเวียต: รัสเซียได้รวมตัวกับสาธารณรัฐอื่นๆ ในยุโรปตะวันออกและเอเชียกลางเพื่อก่อตั้งสหภาพโซเวียต (USSR)
รัสเซียในยุคโซเวียตมีบทบาทสำคัญในสงครามโลกครั้งที่สอง และกลายเป็นมหาอำนาจทางการทหารและเศรษฐกิจ แต่ระบบการปกครองแบบเผด็จการและการกดขี่ประชาชนก็ทำให้เกิดความไม่พอใจจากประชาชน
หลังจากการล่มสลายของสหภาพโซเวียตในปี 1991 รัสเซียก็ได้กลับมาเป็นประเทศเอกราชอีกครั้ง
Vladimir Lenin : ผู้นำผู้เปลี่ยนแปลงรัสเซีย
Lenin เป็นบุคคลสำคัญที่นำพาการปฏิวัติเดือนกุมภาพันธ์ และเดือนตุลาคมให้สำเร็จลุล่วง
เขาเป็นนักคิดและนักปฏิวัติที่ชาญฉลาด และมีความเชื่อมั่นอย่างแรงกล้าในหลักคำสอนของคาร์ล มาร์กซ์ Lenin มีความสามารถในการโน้มน้าวใจผู้คน และสามารถสร้างความสามัคคีให้กับพรรคบอลเชวิค
แม้ว่าการปฏิวัติเดือนตุลาคมและการสถาปนารัฐโซเวียตจะนำไปสู่การกดขี่ประชาชนในระยะยาว แต่ Lenin ก็เป็นบุคคลที่เปลี่ยนแปลงโฉมหน้าของรัสเซีย และสร้างอิทธิพลต่อประเทศต่างๆ ทั่วโลก
** ตารางแสดงผลกระทบของการปฏิวัติเดือนกุมภาพันธ์**
ผลกระทบ | |
---|---|
สิ้นสุดระบอบราชวงศ์ | |
การสถาปนารัฐบาลชั่วคราว | |
การเกิดขึ้นของพรรคบอลเชวิค |
การศึกษาประวัติศาสตร์รัสเซียในยุคนี้ช่วยให้เราเข้าใจถึงความซับซ้อนของการเมืองและสังคมรัสเซียได้ดีขึ้น และเห็นถึงอิทธิพลของ ideologies ต่างๆ ที่มีต่อประเทศ