การเลือกตั้งประธานาธิบดีอียิปต์ปี 2012: การจุดประกายความหวัง และการสั่นคลอนของอำนาจ

ประวัติศาสตร์มักถูกบันทึกด้วยหมึกสีดำและแดง หากจะกล่าวถึงอียิปต์ในช่วงหลังการปฏิวัติปี 2011 เราคงต้องยอมรับว่ามันเป็นบทที่ถูกเขียนด้วยสีรุ้ง และด้วยความตื่นเต้นของการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่

หลังจากการล้มล้างระบอบประธานาธิบดี Hosni Mubarak การเมืองอียิปต์เผชิญหน้ากับความท้าทายใหม่ ในขณะที่ประชาชนต่างหวังที่จะได้เห็นประเทศที่เป็นประชาธิปไตยที่แท้จริง

การเลือกตั้งประธานาธิบดีปี 2012 ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในการสร้างสรรค์อนาคตของอียิปต์

สองผู้สมัครหลักที่ถูกกล่าวขวัญถึงคือ Mohamed Morsi จากพรรค Freedom and Justice (FJP) ซึ่งเป็นแขนงหนึ่งของกลุ่ม Muslim Brotherhood และ Ahmed Shafik อดีตรัฐมนตรีและผู้เคยดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี

การเลือกตั้งครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์อียิปต์ที่ประชาชนทั่วไปได้มีสิทธิ์ออกเสียงเลือกประธานาธิบดีของตนเอง

บรรยากาศในการเลือกตั้งเต็มไปด้วยความตื่นเต้นและคาดหวัง ประชาชนต่างพากันออกมาใช้สิทธิ์อย่างคึกคัก และผู้สังเกตการณ์จากทั่วโลกต่างจับตามองเหตุการณ์อย่างใกล้ชิด

Morsi ชนะการเลือกตั้งอย่างฉิวเฉียด โดยได้รับคะแนนเสียง 51.7%

ชัยชนะของ Morsi ทำให้เกิดความหวังในหมู่ประชาชนที่ต้องการเห็นประเทศของตนเป็นระบอบประชาธิปไตยที่มีเสรีภาพและความยุติธรรมมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม ชัยชนะของ Morsi ก็ยังถูกโจมตีจากฝ่ายตรงข้าม

พวกเขากลัวว่า Morsi จะนำพาอียิปต์ไปสู่ระบอบศาสนานิยม และจะละเมิดสิทธิของชนกลุ่มน้อยในประเทศ

การที่ Morsi เป็นสมาชิกของ Muslim Brotherhood ทำให้เกิดความกังวลว่าเขาจะใช้ อำนาจเพื่อผลักดันนโยบายที่เป็นอันตรายต่อชาวคริสต์และผู้หญิงในอียิปต์

Morsi พยายามที่จะสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน และประกาศว่ารัฐบาลของเขาจะปกครองด้วยหลักการของศาสนาอิสลามอย่างพอประมาณ

อย่างไรก็ตาม ความตึงเครียดทางการเมืองยังคงมีอยู่และถูกขยายตัวขึ้นในช่วงปีต่อมา

ในเดือนกรกฎาคม 2013 Morsi ถูกกองทัพอียิปต์โค่นล้มจากตำแหน่งหลังจากประชาชนจำนวนมากออกมาชุมนุมประท้วง

สาเหตุและผลลัพธ์ของการเลือกตั้งปี 2012

การเลือกตั้งประธานาธิบดีปี 2012 นับเป็นความสำเร็จครั้งสำคัญของการปฏิวัติปี 2011 ในอียิปต์ การที่ประชาชนได้รับโอกาสในการเลือกผู้นำของตนเองถือเป็นก้าวกระโดดในเชิงประชาธิปไตย

อย่างไรก็ตาม ชัยชนะของ Morsi ก็ยังสร้างความแตกแยกและความไม่แน่นอนทางการเมือง

Morsi ไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และนโยบายของเขาก็ถูกวิจารณ์จากหลายฝ่าย

ผลลัพธ์ที่ตามมาคือการรัฐประหารในปี 2013 ซึ่งนำไปสู่ความปั่นป่วนทางการเมืองและความไม่สงบในอียิปต์

บทเรียนจากการเลือกตั้งปี 2012

การเลือกตั้งประธานาธิบดีปี 2012 ย้ำเตือนถึงความซับซ้อนของการสร้างระบอบประชาธิปไตยในประเทศที่มีประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่หลากหลาย

มันเป็นบทเรียนที่สำคัญสำหรับอียิปต์และประเทศอื่นๆ ที่กำลังพยายามที่จะเปลี่ยนแปลงระบบการปกครองของตนเอง

ตารางเปรียบเทียบระหว่าง Mohamed Morsi และ Ahmed Shafik

Mohamed Morsi: จากนักวิชาการสู่ผู้นำประเทศ

Morsi เป็นศาสตราจารย์ด้านวิศวกรรมศาสตร์ และเป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้งพรรค Freedom and Justice (FJP) ซึ่งเป็นแขนงของกลุ่ม Muslim Brotherhood

ในฐานะประธานาธิบดี Morsi พยายามที่จะนำนโยบายที่เน้นการพัฒนาสังคมและเศรษฐกิจ เช่น การสร้างโรงเรียน โรงพยาบาล และโครงการเพื่อช่วยเหลือคนจน

อย่างไรก็ตาม นโยบายของ Morsi ก็ถูกวิจารณ์จากหลายฝ่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาลและศาสนา

Ahmed Shafik: ผู้มีประสบการณ์ในวงการเมือง

Shafik เป็นอดีตรัฐมนตรีและเคยดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในสมัย Hosni Mubarak

แคมเปญเลือกตั้งของ Shafik เน้นย้ำถึงความจำเป็นในการคงไว้ซึ่งความมั่นคงและความสงบ

Shafik ได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มผู้คนที่ต้องการความต่อเนื่องของระบอบเดิม

บทบาทของกองทัพอียิปต์

กองทัพอียิปต์มีบทบาทสำคัญในสังคมอียิปต์มานานหลายทศวรรษ และถือเป็นสถาบันที่ทรงอิทธิพลที่สุดในประเทศ

หลังจากการปฏิวัติปี 2011 กองทัพได้ดำรงบทบาทในการรักษาความสงบและความมั่นคง

การโค่นล้ม Morsi ในปี 2013 แสดงให้เห็นถึงพลังและอิทธิพลของกองทัพอียิปต์

ความท้าทายที่ยังอยู่ต่อหน้า

อียิปต์ยังคงต้องเผชิญหน้ากับความท้าทายมากมายในด้านการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม

การสร้างระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริง การพัฒนาเศรษฐกิจ และการแก้ไขปัญหาความยากจนและความไม่เท่าเทียมกัน เป็นเรื่องที่ต้องได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วน

อนาคตของอียิปต์ยังคงเป็นปริศนา และขึ้นอยู่กับว่าประเทศจะสามารถเอาชนะความท้าทายเหล่านี้ได้หรือไม่