การปฏิวัติอียิปต์ ค.ศ. 2011 เป็นเหตุการณ์ที่สำคัญและมีอิทธิพลต่อประวัติศาสตร์ของประเทศอียิปต์ และส่งผลสะเทือนไปทั่วโลกอาหรับ เหตุการณ์นี้เกิดจากการรวมตัวกันอย่างแข็งขันของประชาชนอียิปต์จากทุก walks of life ที่ต้องการโค่นล้มระบอบเผด็จการที่นำโดยHosni Mubarak ซึ่งครองอำนาจมาถึง 30 ปี
ก่อนที่จะมีการปฏิวัติ อียิปต์ถูกปกครองด้วยระบอบเผด็จการมานานหลายทศวรรษ การคุกคามความรุนแรงต่อผู้ไม่เห็นด้วยทางการเมือง การละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างเป็นระบบ และการขาดความโปร่งใสในการบริหารประเทศเป็นเรื่องปกติ
ความไม่พอใจที่มีต่อรัฐบาล Mubarak เริ่มต้นจากปัญหาด้านเศรษฐกิจที่แย่ลงอย่างรวดเร็ว อัตราว่างงานสูงขึ้น ค่าครองชีพเพิ่มสูงขึ้น และช่องว่างระหว่างคนรวยกับคนจนก็ขยายกว้างขึ้น
การปะทุขึ้นของการปฏิวัติเริ่มต้นด้วยเหตุการณ์ที่ดูเหมือนจะไม่มีนัยสำคัญ: การเสียชีวิตของ Khaled Said หนุ่มชาวอียิปต์ซึ่งถูกตำรวจทำร้ายจนเสียชีวิตในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 2010 เหตุการณ์นี้ถูกเผยแพร่ผ่านโลกออนไลน์และจุดชนวนให้เกิดความโกรธแค้นและความไม่ไว้วางใจต่อตำรวจอย่างมาก
เมื่อวันที่ 25 มกราคม ค.ศ. 2011 การประท้วงเริ่มขึ้นที่ Tahrir Square ในกรุงไคโร และในไม่ช้าก็แพร่กระจายไปทั่วประเทศ ผู้ประท้วงเรียกร้องให้ Mubarak ลาออกจากตำแหน่งและจัดตั้งระบอบประชาธิปไตย
การประท้วงเหล่านี้ถูกเผชิญหน้ากับการตอบโต้ที่รุนแรงจากรัฐบาล ซึ่งนำโดยการใช้ความรุนแรงต่อผู้ประท้วง การจับกุมผู้ไม่เห็นด้วยทางการเมือง และการปิดกั้นการสื่อสาร
อย่างไรก็ตาม การเคลื่อนไหวของประชาชนอียิปต์ได้รับการสนับสนุนอย่างกว้างขวางจากสังคมโลกและกลุ่มนักเคลื่อนไหวในประเทศอื่นๆ
หลังจาก 18 วันของการประท้วง Mubarak ตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งเมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2011 เหตุการณ์นี้เป็นชัยชนะครั้งสำคัญสำหรับประชาชนอียิปต์ และแสดงให้เห็นถึงพลังของการรวมตัวกันอย่างสันติเพื่อต่อต้านความอยุติธรรม
จาก Mubarak สู่ Morsi: การเปลี่ยนแปลงและความไม่แน่นอน
หลังจาก Mubarak ลาออกจากตำแหน่ง อิบราฮิม มูมาร์ (Ibrahim Moummar) ซึ่งเป็นหัวหน้าสภาสูงสุดของกองทัพ ได้เข้ามาบริหารประเทศชั่วคราว
การเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งแรกในประวัติศาสตร์อียิปต์ถูกจัดขึ้นในปี ค.ศ. 2012 Mohammed Morsi จากพรรค Muslim Brotherhood ชนะการเลือกตั้ง
Morsi และ Brotherhood มุ่งมั่นที่จะสร้างรัฐอิสลามในอียิปต์ ซึ่งทำให้เกิดความกังวลจากกลุ่มผู้ที่ไม่เห็นด้วยทางศาสนาและกลุ่มที่สนับสนุนระบอบฆราvăsava
ในเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 2013 เกิดการประท้วงครั้งใหญ่ทั่วประเทศต่อต้าน Morsi และ Brotherhood หลังจากนั้นกองทัพอียิปต์นำโดย Abdel Fattah el-Sisi ก็ยึดอำนาจจาก Morsi
อับเดล ฟัตтах อัล-ซี่ซี: ปรากฏตัวบนเวทีการเมือง
Abdel Fattah el-Sisi ซึ่งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมในสมัยของ Morsi ได้ขึ้นมาเป็นผู้นำประเทศหลังจากการยึดอำนาจ และต่อมาได้ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดี
ระหว่างที่ el-Sisi ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี อียิปต์ได้เผชิญกับความท้าทายมากมาย รวมถึงการต่อสู้กับกลุ่มติดอาวุธในซิไนและการกดขี่ทางการเมือง
el-Sisi ได้รับทั้งคำชมเชยและตำหนิสำหรับแนวทางของเขา
ผู้สนับสนุน el-Sisi ยกย่องเขาว่าเป็นผู้นำที่แข็งแกร่งและมีวิสัยทัศน์ และเห็นว่าเขายังคงความมั่นคงให้กับประเทศ
ขณะเดียวกัน ผู้ที่ต่อต้าน el-Sisi ก็วิจารณ์ว่าเขาละเมิดสิทธิมนุษยชน สกัดกั้นการเคลื่อนไหวของฝ่ายค้าน และสร้างระบอบเผด็จการขึ้นมาใหม่
บทเรียนจากอดีต: ความท้าทายและโอกาสในอนาคต
การปฏิวัติอียิปต์ ค.ศ. 2011 เป็นเหตุการณ์ที่สำคัญที่แสดงให้เห็นถึงความปรารถนาของประชาชนในการมีส่วนร่วมทางการเมือง และเรียกร้องสำหรับรัฐบาลที่เป็นธรรมและโปร่งใส
แม้ว่าการปฏิวัติจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองอย่างมีนัยสำคัญ แต่ประเทศอียิปต์ก็ยังคงเผชิญกับความท้าทายในการสร้างระบอบประชาธิปไตยที่มั่นคง
ความไม่แน่นอนทางการเมือง ความยากจน การขาดโอกาส และการละเมิดสิทธิมนุษยชน ยังคงเป็นปัญหาสำคัญ
อนาคตของอียิปต์ขึ้นอยู่กับความสามารถของประชาชนในการรวมตัวกันอย่างสันติเพื่อแก้ไขปัญหาเหล่านี้ และสร้างประเทศที่เป็นธรรมและเจริญรุ่งเรืองสำหรับทุกคน
ตารางสรุปเหตุการณ์สำคัญ
เหตุการณ์ | วันที่ |
---|---|
การเสียชีวิตของ Khaled Said | มิถุนายน 2010 |
การประท้วงเริ่มต้น | 25 มกราคม 2011 |
Hosni Mubarak ลาออก | 11 กุมภาพันธ์ 2011 |
Mohammed Morsi ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดี | มิถุนายน 2012 |
การยึดอำนาจของกองทัพอียิปต์ | กรกฎาคม 2013 |
Abdel Fattah el-Sisi ขึ้นเป็นประธานาธิบดี |